ไม้
เฟอร์นิเจอร์ประเภทไม้จริงและปิดเยื่อไม้วีเนียร์ ไม่ควรนำวัสดุร้อนจัดวางบนเฟอร์นิเจอร์เพราะสีที่เคลือบผิวจะเกิดการสลายตัวทางเคมีเมื่อได้รับอุณหภูมิเกินกว่า 100 องศาเซลเซียส และไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ ไม่ควรให้ส่วนของเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิจากไม้เปียกน้ำเป็นเวลานานเพราะจะทำให้เนื้อไม้บวมหรือพองตัวได้
การทำความสะอาด
เฟอร์นิเจอร์ที่เคลือบสี
- ในกรณีที่ทำความสะอาดปกติ ใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นออก หรือใช้ผ้านุ่มชุบน้ำ บิดหมาดๆเช็ดออก
- ในกรณีที่มีคราบสกปรกใช้น้ำยาเช็ดกระจกเช็ดด้ยผ้านุ่ม หากสีที่เคลือบไม่ใช้สีเงาให้ถูวนรอบคราบสกปรกเบาๆ
- ในกรณีที่ต้องการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์เคลือบสีเงา สามารถใช้น้ำยาขัดเงาชนิดที่ใช้กับไม้เคลือบสีได้
เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีด้าน
- ใช้น้ำยาเช็ดกระจกธรรมดาสเปรย์ลงบริเวณที่สกปรก แล้วใช้ผ้านุ่มถูวนรอบเบาๆ จากนั้นจึงใช้ผ้าแห้งเช็ด
________________________________________
ลามิเนท
เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ปิดผิวด้วยวัสดุสังเคราะห์ ไม่ควรนำวัสดุที่มีความร้อนสูงกว่า 150 องศาเซลเซียส วางลงบนวัสดุประเภทนี้
การทำความสะอาด
- ใช้ผ้าแห้งนุ่มๆเช็ดทำความสะอาด
- ไม่ควรใช้แผ่นใยขัด เพราะจะทำให้เกิดรอยขูดขีดและผิวด้านได้ง่าย
- วัสดุปิดผิว มีคุณสมบัติพิเศษสามารถป้องกันคราบสกปรก คราบอาหาร และเครื่องดื่มที่เกิดขึ้นตามปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดคราบสกปรกโดยเฉพาะขึ้นให้ปฎิบัติดังนี้
- การทำความสะอาดสำหรับคราบสกปรกทั่วไป เช่น คราบอาหาร ชา กาแฟ ให้ใช้ผ้านุ่มเช็ดด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ หรือน้ำยาเช็ดกระจก
- การทำความสะอาดคราบฝังแน่น เช่น คราบสี คราบหมึก สามารถใช้ทินเนอร์เช็ดเฉพาะจุดที่มีคราบฝังแน่น
________________________________________
กระจก
กระจกสามารถเป็นรอยขีดข่วนและหมองได้ง่ายหากไม่ระมัดระวัง หรือใช้งานอย่างเหมะสม ฉะนั้นจะต้องระมัดระวังในการวางสิ่งของลงบนกระจก เช่น แจกัน แก้วน้ำ ควรมีผ้าหรือแผ่นรองวางก่อน และไม่วางของร้อนจัดบนกระจก
การทำความสะอาด
- คราบสกปรกที่เกิดจากฝุ่นละอองควรดูแลรักษาความสะอาดโดยใช้ไม้ขนไก่ปัดหรือผ้านุ่มเช็ดถูอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งเพื่อป้องกันคราบฝุ่นฝังแน่น
- ความสกปรกที่เกิดจากคราบเปื้อน เช่น คราบกาแฟ ให้ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำสะอาดเช็ดจนกว่าคราบจะหมดไป แต่หากเป็นคราบฝังแน่นสามารถใช้น้ำยาเช็ดกระจกได้
________________________________________
หิน
หินแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ หินธรรมชาติ หินกึ่งสังเคราะห์ และหินสังเคราะห์
หินธรรมชาติ เช่น หินแกรนิต หินอ่อน
- หินแกรนิต เป็นหินธรรมชาติที่ดูสง่า หรูหรา มีความแข็งแรงทนทานเหมาะสำหรับปูพื้นและท็อป
- หินอ่อน เป็นหินที่มีความสวยงามตามลายธรรมชาติของหิน ไม่แข็งแรงเท่าหินแกรนิต เมาะสำหรับใช้ปูผนังตกแต่งและทำโต๊ะอาหาร
หินกึ่งสังเคราะห์ (Composite stone) เช่น Verona stone มีส่วนระอบของหินธรรมชาติ 95% และสารเรซิ่นอีก 5% มีรูพรุนน้อยกว่าหินธรรมชาติ จึงดูดซึมน้อยกว่าแต่ยังดูสวยงามตามธรรมชาติ
หินสังเคราะห์ (Acrylic solid surface) เช่น LG,Mystera มีส่วนผสมของสารอคริลิก น้ำซึมไม่ผ่าน จึงหมดปัญหาเรื่องเชื้อราและกลิ่นอับ ทนต่อการขีดข่วน และความร้อนสูง ไร้รอยต่อของหิน และปรับหน้าให้ดูใหม่เมื่อได้ใช้ไปนานๆ
การทำความสะอาด
หินแกรนิต/หินอ่อน
เนื่องจากคุณสมบัติของหินที่เป็นธรรมชาติที่น้ำสามารถซึมผ่านได้ ดังนั้นหากน้ำหกควรรีบเช็ดทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะน้ำอาจซึมผ่านได้ทำให้เกิดความอับชื้น หรือเชื้อราได้ วิธีการทำความสะอาดให้ใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดหรือใช้น้ำยาล้างจาน หรือน้ำยาทำความสะอาดเช็ดได้ตามปกติ และเช็ดด้วยผ้าแห้งอีกครั้ง
หินกึ่งสังเคราะห์
วิธีการดูและรักษาคือ ต้องรักษาให้สะอาดอยู่เสมอ ทั้งนี้เนื่องจากฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกที่สะสมเป็นเวลานานทำให้หินอาจดูหมองลง
- ให้เลือกใช้น้ำยาทำความสะอาด (Detergent) ที่ใช้สำหรับหินอ่อน แล้วใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำยาที่ผสมน้ำยาบิดให้หมาดแล้วถูให้ทั่วบริเวณที่ต้องการ ที่มีคราบสกปรกมากให้ใช้แผ่นใยขัดล้างเฉพาะที่โดยขัดเป็นวงกลม และล้างอกด้วยน้ำสะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง
- ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำยาเคลือบเงาชนิดน้ำ (Water Base) ผสมน้ำเช็ดให้ทั่วพื้นและทิ้งไว้จนแห้ง ใช้ผ้าสะอาดเช็ดอีกครั้งจนเงา การใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบเงาเป็นประจำจะทำให้หินคงสภาพและเงางามยิ่งขึ้น
หินสังเคราะห์
เนื่องจากเป็นหินสังเคราะห์ ดังนั้นจึงทนต่อคราบสกปรก เช่น อาหารและคราบมัน คราบชา กาแฟ ผลไม้ น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู เป็นต้น ดังนั้นหากเปื้อนคราบเหล่านี้สามารถทำควมสะอาดได้โดยง่าย เพียงใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหรือใช้น้ำยาล้างจานทำความสะอาดเช็ดตามปกติ