เคล็ดลับการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ให้สวยอยู่คู่บ้านกันนานๆ

ไม่ว่าใครก็ต้องการให้บ้านดูสวยและสะอาดอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นหัวใจหลักทำให้บ้านดูสวยขึ้นมา แต่ก็ต้องยอมรับกันตรงนี้ว่าเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เมื่อเวลาผ่านไปนานก็ย่อมดูเก่าเสื่อมโทรมลง ยิ่งหากเราไม่ดูแลอย่างถูกวิธีก็ทำให้เฟอร์นิเจอร์ดูเก่าเร็วยิ่งขึ้นไปอีก

ถ้าลองดูแล้วเฟอร์นิเจอร์ในบ้านต่างก็ประกอบด้วยวัสดุที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ หวาย ผ้า หนัง ซึ่งแต่ละวัสดุก็มีข้อจำกัดในการดูแลรักษา จนบางครั้งก็ทำให้เราเลือกไม่ถูกว่าเฟอร์นิเจอร์วัสดุนี้ ต้องดูแลทำความสะอาดอย่างไร โมเดอร์นฟอร์มมีเคล็ดลับการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ ในแต่ละวัสดุอย่างถูกวิธี เพื่อยืดอายุความสวยงามของเฟอร์นิเจอร์ให้อยู่กันนานๆ มาแนะนำ

1. เฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็ง

ไม้เนื้อแข็งที่นิยมนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์จะเป็นจำพวก ไม้สัก ไม้ประดู่ ไม้มะค่า ไม้ตะเคียนทอง ซึ่งการดูแลง่ายนิดเดียวแค่ใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าขนหนูชุบน้ำสบู่ผสมเจือจางแล้วเช็ด ระวังอย่าอย่าให้เปียกชุ่มมากเกินไป จากนั้นก็ผึ่งเฟอร์นิเจอร์ให้แห้ง หรือหากมีรอยเปื้อนให้ใช้กระดาษทรายเนื้อละเอียดขัดออกก่อนแล้วทาขี้ผึ้งทับก่อนจะเช็ดด้วยผ้าแห้ง ไม่ควรตั้งไว้กลางแจ้งเพราะแสงแดดจะทำลายสีเนื้อไม้

สำหรับใครมีเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ค่อนข้างเก่าแล้ว ควรจะใช้ครีมหรือน้ำยาทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ไม้โดยเฉพาะเพื่อให้สีและลายของไม้กลับมาดูชัดเหมือนใหม่ ตบท้ายด้วยสเปรย์ป้องกันน้ำ เพื่อยืดอายุเฟอร์นิเจอร์ ให้สวยคงสภาพนานยิ่งขึ้น

2. เฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้ออ่อน

การทำความสะอาดไม้เนื้ออ่อนจะมีลักษณะคล้ายกับไม้เนื้อแข็ง แต่จะแตกต่างตรงที่ไม้เนื้ออ่อนส่วนใหญ่จะเจอปัญหาแมลงมากัดกิน ซึ่งการดูแลรักษานั้นต้องฉีดยาฆ่าแมลงจำพวกมอด แล้วนำไปตากแดด อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงวางของชื้นหรือทำให้เฟอร์นิเจอร์โดนน้ำ เพราะจะทำให้เกิดรอยด่าง (เกิดได้ง่ายกว่าเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็ง) แต่หากเกิดรอยเปื้อนเยอะมากเกินให้ทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำส้มสายชูผสมน้ำอุ่น จากนั้นทาทับด้วยขี้ผึ้งได้เลย

และหากมีรอยไม่ลึกมาก ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากสัตว์เลี้ยงที่ชอบตะกุยเฟอร์นิเจอร์จนมีรอยขีดข่วนเต็มไปหมด สามารถใช้ยาขัดรองเท้าที่มีสีใกล้เคียงกับเนื้อไม้มาทาปิดรอยแล้วตามด้วยขี้ผึ้งก็เป็นไอเดียที่เข้าท่าเหมือนกัน

3. เฟอร์นิเจอร์หนัง

การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์หนังนั้นไม่ยากเลย อันดับแรกใช้วิธีดูดฝุ่นให้ทั่ว เน้นตามร่องช่วงต่อของเฟอร์นิเจอร์เพื่อไม่ให้ฝุ่นเข้าไปสะสม ถ้ามีรอยเปื้อนจางๆ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดเบาๆ ควรบิดให้หมาดอย่าให้เปียกเกินไป เพราะหนังบางชนิดโดนน้ำมากจะทำให้เปลี่ยนสีได้ แต่ถ้ามีคราบต่างๆ เหล่านี้ควรใช้วิธีที่แตกต่างกัน

• รอยเปื้อนหมึกปากกา ใช้สำลีก้านชุบแอลกฮอล์และถูเบา เพื่อไม่ให้สีของหนังเพี้ยน พอหมึกเริ่มละลายก็ใช้ผ้าเช็ดซ้ำไปอีกครั้งหนึ่ง
• รอยขูดขีดเล็กๆ ใช้สำลีก้านเช่นเดียวกันชุบน้ำมันมะกอก หรือเบบี้ออยล์ทาบริเวณรอยให้ทั่ว ทิ้งเอาไว้ 5 นาที แล้วเช็ดด้วยสะอาดซ้ำอีกครั้ง
• คราบเชื้อราให้ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำแล้วฉีดเพื่อขจัดคราบ จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดออก
• รอยเปื้อนฝังแน่นควรใช้น้ำยาทำความสะอาดหนังโดยเฉพาะเช็ด

ข้อควรระวังสำหรับเฟอร์นิเจอร์หนัง อย่าใช้แอมโมเนีย สารฟอกสี หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฤทธิ์รุนแรงมาใช้กับเฟอร์นิเจอร์ เพราะจะทำให้สีของหนังลอกออกมา หรือเพี้ยนไปเลย และไม่ควรใช้น้ำทำความสะอาดมากเกินไป ซึ่งใครมีเฟอร์นิเจอร์หนังอยู่ที่บ้านก็ควรศึกษาดีๆ ว่าเป็นหนังชนิดไหนจะได้ทำความสะอาดดูแลได้ตรงจุด

4. เฟอร์นิเจอร์ผ้า

การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ผ้านั้น เราต้องดูก่อนว่าเฟอร์นิเจอร์ผ้าเป็นแบบถอดซักได้หรือไม่ได้กันก่อน สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถถอดซักได้นั้นจะง่ายกว่า แต่ให้ศึกษาวิธีการซักบนฉลากที่ติดมากับผ้าหุ้มก่อนว่าให้ผงซักฟอกแบบไหน ซึ่งส่วนใหญ่จะแนะนำให้ซักด้วยมือ โดยการใช้ผงซักฟอกผสมน้ำอุ่น จากนั้นซักเบา ๆ และผึ่งให้แห้งแบบไม่ตากแดดจัด เพราะจะทำให้สีเปลี่ยน เมื่อผ้าใกล้แห้งให้นำไปสวมไว้ที่เดิมเพื่อจะได้เข้ารูปพอดี

หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ถอดซักไม่ได้ ให้ทำความสะอาดเฉพาะส่วน ขั้นตอนแรกเริ่มจากผิวหน้าก่อน ด้วยการใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบหัวแปรงอ่อนๆ ดูดตามซอกให้ทั่ว จากนั้นถ้ามีรอยเปื้อนให้ใช้น้ำส้มสายชูเทลงเล็กน้อย ถูเบา ๆ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำผสมสบู่ หรือผงซักฟอกจางๆ เช็ดอีกทีนึงระวังอย่าให้ชุ่มมากเกินไป ตบท้ายด้วยการใช้ลมเป่าให้แห้งก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

5. เฟอร์นิเจอร์หวาย

ตามจริงหวายก็อยู่ในประเภทไม้เนื้ออ่อน การทำความสะอาดส่วนใหญ่ก็จะเหมือนกัน แตกต่างกันตรงที่เฟอร์นิเจอร์หวายจะมีซอกมุมต่างๆ เป็นตัวสะสมฝุ่นคราบสกปรกเยอะ ดังนั้นการทำความสะอาดดูแลอันดับแรก ให้ใช้แปรงเล็กๆ จัดการตรงซอกมุมก่อน และใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็กออกอีกที หากเริ่มมีรอยแตกควรใช้น้ำยารักษาเฟอร์นิเจอร์หวายที่มีส่วนผสมของน้ำมันเช็ด เพื่อรักษาความชุ่มชื่นของพื้นผิว ซึ่งควรจะต้องหมั่นทำความสะอาดเดือนละ 1-2 ครั้ง ให้ยืดอายุอยู่ได้นานๆ

6. เฟอร์นิเจอร์หินอ่อน

ขึ้นชื่อว่า “หิน” แต่ก็ใช่ว่าจะทนทานไม่สึกหรอง่าย ยิ่งเป็นหินอ่อนบางครั้งเราไม่ระวังก็จะเกิดรอยต่างๆ ได้ หรือหากใช้น้ำยาทำความสะอาดมีฤทธิ์เป็นกรด-เบสสูง ก็จะทำให้สีผิวเพี้ยนได้เช่นกัน ดังนั้นการทำความสะอาดอันดับแรกเลยใช้เพียงไม้ขนไก่ปัดฝุ่น แล้วใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดและซ้ำด้วยผ้าแห้งอีกที แต่หากหินอ่อนมีรอยเปื้อนต้องรีบทำความสะอาดโดยเร็ว ด้วยการโรยเกลือลงบนคราบเพื่อให้ดูดซับคราบเหล่านั้นออก ถ้ายังมีคราบติดอยู่ให้เทนมบูดลงบนเกลือและทิ้งไว้ประมาณ 3 วันจากนั้นใช้ผ้าชุดน้ำบิดหมาดเช็ดออก

หากขั้นตอนนี้ดูยุ่งยากเกินไปสามารถเลือกใช้เบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำเข้าด้วยกัน นำมาเช็ดทำความสะอาดหินอ่อนอย่างระมัดระวัง สำหรับหินอ่อนที่มีสีอ่อน ควรใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เช็ดคราบสกปรกออก ซึ่งน้ำยาเหล่านี้หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายอุปกรณ์ทำความสะอาด

        การดูแลทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์แต่ละวัสดุนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เราเข้าใจวัสดุต่าง ๆ และทำความสะอาดอย่างถูกวิธี เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เฟอร์นิเจอร์ตัวสวยอยู่คู่บ้านกับเราไปได้อย่างยาวนาน