แจกไอเดียจัดห้องทำงานในบ้านให้สวย น่าใช้ ปลุกไฟในการทำงาน !
เมื่อบริษัทให้พนักงาน WFH กันมากขึ้น แต่คนบางส่วนก็ไม่ชอบการทำงานที่บ้าน บทความนี้จึงจะมาบอกวิธีจัดห้องทำงานในบ้านให้สวย ๆ เพิ่มความอยากลุกขึ้นมาทำงาน !
เมื่อเราเข้าสู่ยุค New Normal การทำงานอยู่ที่บ้าน หรือ Work from Home (WFH) ก็กลายเป็นรูปแบบการทำงานที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะในช่วงที่เกิดโรคระบาดแล้วเราไม่สามารถเข้าออฟฟิศเหมือนอย่างปกติได้ ต้องเก็บตัวอยู่แต่ในห้องทำงานในบ้านแทน ทำให้หลายคนเริ่มรู้สึกว่าจริง ๆ แล้วการ WFH นั้นก็สะดวกสบายดี แถมยังประหยัดเวลาในการเดินทางได้เยอะ โดยเฉพาะในเมืองที่เต็มไปด้วยความแออัดอย่างในกรุงเทพฯ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกว่าการทำงานที่บ้านส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
ความจริงแล้ว นั่นอาจเป็นความรู้สึกที่เกิดจากปัญหาสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย ดังนั้น การมีห้องทำงานในบ้าน หรือพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำงานโดยเฉพาะจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยเสริมบรรยากาศการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ ซึ่งบทความนี้จะมาบอกไอเดียจัดห้องทำงานในบ้าน ให้ชาว WFH ทุกคนรู้สึกมีไฟ อยากลุกขึ้นมาทำงานมากกว่าเดิม !
จัดห้องทำงานในบ้าน เลือกสไตล์ไหนดี ?
หากคุณกำลังวางแผนจะจัดห้องทำงานในบ้าน การเลือกสไตล์ที่สวยถูกใจ และเหมาะสมกับการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ เวลานั่งทำงานจะได้รู้สึกสบายตา สบายใจ มีความสุขกับการทำงานมากขึ้นเพราะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ชอบ โดยสามารถจัดได้หลากหลายสไตล์ตามรสนิยมของแต่ละคน ดังนี้สไตล์มินิมัล เน้นเรียบง่าย สะอาดตา
สไตล์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเรียบง่าย “Less is More” ไม่หวือหวาหรือซับซ้อน แต่ก็ดูดีมีระดับได้ โดยจะใช้เฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ให้ห้องทำงานดูโล่ง โปร่งสบาย ไม่รกรุงรัง ช่วยให้บรรยากาศการทำงานสงบมากขึ้น โทนสีสำหรับสไตล์นี้ ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเทา ส่วนของตกแต่งก็ไม่ต้องเยอะเกินไป เน้นฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก หากมี ก็ควรเป็นสิ่งของที่ไม่มีลวดลายอะไรเป็นพิเศษนัก เพราะจะขัดกับความมินิมัลได้ โดยอาจตกแต่งด้วยต้นไม้กระถางเล็ก ๆ เพิ่มความผ่อนคลายในห้องทำงาน และอาจเพิ่มพื้นที่เก็บของแบบบิลด์อิน เพื่อการจัดวางสิ่งของที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยสไตล์โมเดิร์น เรียบหรู ดูผ่อนคลาย
สไตล์โมเดิร์นจะคล้ายกับสไตล์มินิมัลตรงที่นิยมใช้โทนสีหลักเป็นสีพื้น ๆ เช่น ขาว ดำ เทา กรม น้ำตาล แต่จะผสมผสานกับการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีวัสดุที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นโลหะ กระจก หรือหนัง ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่หรูหรา เรียกได้ว่าเป็นรูปแบบห้องทำงานในบ้านที่ถูกใจคนสมัยใหม่ส่วนมากเลยทีเดียว เพราะเป็นสไตล์ที่ไม่ตกยุค มองแล้วไม่เบื่อ ส่วนไอเดียการจัดห้องทำงานในบ้านสไตล์โมเดิร์นให้สวยนั้น อาจตกแต่งด้วยโคมไฟดีไซน์เก๋ ๆ เพื่อเพิ่มแสงสว่างและสร้างบรรยากาศให้รู้สึกแอ็กทิฟมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถติดภาพวาดหรือรูปถ่ายเพื่อความสวยงามและสะท้อนความเป็นตัวตนของเจ้าของห้องได้ด้วยสไตล์ลอฟท์ ดิบ เท่ ไม่ซ้ำใคร
สำหรับคนที่อยากได้ห้องทำงานในบ้านแนวอินดัสเทรียล สไตล์ลอฟท์จะช่วยเพิ่มบรรยากาศแบบโรงงานสมัยก่อน ด้วยการใช้วัสดุดิบ ๆ เห็นโครงสร้างของอาคารชัดเจน เช่น ปูนเปลือย คอนกรีต ไม้ หรือแม้แต่โครงเหล็กที่ขึ้นสนิม ผนังอิฐที่เห็นร่องปูน ซึ่งจะช่วยเสริมให้บรรยากาศในห้องทำงานดูแปลกใหม่ เท่ ไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังสามารถจัดวางสิ่งของได้อย่างอิสระ ไม่ต้องมีพิธีรีตองมาก เน้นความเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าของห้องเป็นหลัก ถือเป็นสไตล์ที่ตอบโจทย์เหมาะสมกับวลีที่กล่าวไว้ว่า “ความไม่สมบูรณ์แบบก็คือความสมบูรณ์แบบ” ได้อย่างแท้จริงทีเดียว
สไตล์วินเทจ เสน่ห์แห่งยุคเก่า
ตรงข้ามกับสไตล์โมเดิร์นซึ่งเป็นรูปแบบห้องทำงานในบ้านสมัยใหม่ สไตล์วินเทจจะมาในแนวยุคเก่า เน้นเฟอร์นิเจอร์โบราณ ของตกแต่งย้อนยุค เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความคลาสสิก ต้องการบรรยากาศอบอุ่น โดยจะใช้โทนสีอ่อน เช่น สีครีม สีเบจ สีพาสเทล แล้วผสมผสานเข้ากับสีสันสดใสอย่างสีเขียวมรกต สีน้ำตาล สีทอง สีแดงเลือดหมู ส่วนเฟอร์นิเจอร์ อาจเน้นเป็นวัสดุไม้เป็นหลัก ของตกแต่งก็สามารถใช้เป็นโคมไฟระย้า โทรศัพท์บ้านแบบโบราณ นาฬิกาตั้งโต๊ะแบบวินเทจ พรมขนสัตว์ แจกันดอกไม้ เป็นต้นเคล็ดลับการจัดห้องทำงานในบ้านให้สวยพร้อมใช้งาน
นอกจากการเลือกสไตล์ที่ถูกใจแล้ว ยังมีเคล็ดลับอื่น ๆ ที่ช่วยให้การจัดห้องทำงานในบ้านของคุณสวยงาม พร้อมใช้งาน ดังนี้เลือกพื้นที่ หรือตำแหน่งที่เหมาะกับการทำงาน
การเลือกพื้นที่ห้องทำงานที่มีความเป็นส่วนตัว ปราศจากสิ่งรบกวน จะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถจัดห้องทำงานในบ้านไว้ในพื้นที่เหล่านี้ ห้องนอน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเงียบสงบ แต่ควรจัดพื้นที่ให้แยกออกจากเตียงนอน เพื่อป้องกันการเสียสมาธิ โดยอาจใช้ฉากกั้นห้องแบ่งพื้นที่ มุมห้องโถง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว แต่ควรเลือกมุมที่เงียบสงบ ไม่มีสิ่งหรือเสียงรบกวนเวลาทำงาน พื้นที่ชั้นบนของบ้าน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่ทำงานแยกจากส่วนอื่น ๆ ของบ้าน ซึ่งจะสร้างประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีที่สุดสำรวจทิศทางแสงสว่าง
ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งของการจัดห้องทำงานในบ้าน คือ ต้องคำนึงถึงทิศทางของแสงสว่าง โดยควรเลือกพื้นที่ที่มีแสงสว่างจากธรรมชาติ เนื่องจากแสงสว่างมีผลต่อสมาธิในการทำงานโดยตรง และการอยู่กับแสงจากหลอดไฟใกล้ ๆ ทั้งวันก็อาจส่งผลต่อสุขภาพสายตา หากเป็นไปได้ ควรวางตำแหน่งโต๊ะทำงานให้หันหน้าออกไปทางหน้าต่าง แต่ควรเป็นหน้าต่างที่มีม่านบังแสง เพราะในช่วงที่แดดจ้าอาจทำให้แสบตาได้ และที่สำคัญ อย่าลืมติดตั้งโคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับการทำงานในตอนกลางคืนด้วยการจัดวางตามหลักฮวงจุ้ย
นอกจากการจัดห้องทำงานในบ้านตามสไตล์ที่ชอบแล้ว การจัดวางตามหลักการฮวงจุ้ยก็มีความสำคัญ เนื่องจากเชื่อกันว่าจะช่วยเสริมพลังงานบวกในการทำงาน โดยหลักการฮวงจุ้ยสำหรับห้องทำงานในบ้าน มีดังนี้- ทิศทาง ควรวางโต๊ะทำงานในทิศมงคล อย่างทิศตะวันออก ทิศตะวันออกเฉียงใต้ และทิศใต้
- ตำแหน่ง ควรวางโต๊ะทำงานในตำแหน่ง “ซ้ายมังกร ขวาทะเล” กล่าวคือ ด้านซ้ายวางสิ่งของที่เสริมพลังด้านการงาน เช่น ตู้เอกสาร ชั้นวางหนังสือ ส่วนด้านขวาวางสิ่งของที่เสริมพลังด้านการเงิน เช่น ต้นไม้ ปลา
- สีสัน เลือกใช้ของตกแต่งสีมงคลหรือสีที่ช่วยเสริมพลังงาน เช่น สีฟ้า สีเขียว สีเหลือง
- ข้อควรระวัง ไม่ควรวางโต๊ะทำงานตำแหน่งใต้คานหรือตรงกับประตู และไม่ควรปล่อยให้โต๊ะรก
เสริมบรรยากาศห้องทำงานในบ้าน ด้วยเฟอร์นิเจอร์ห้องทำงานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน เก้าอี้ หรือชั้นวางของ ต้องนึกถึงโมเดอร์นฟอร์ม ร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศคุณภาพที่ช่วยให้การทำงานในบ้านของคุณมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคย !
ข้อมูลอ้างอิง
- แต่งห้องทำงาน 5 แบบ ผ่อนคลายสบายใจสไตล์ Work & Relax. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567. จาก https://www.ddproperty.com/คู่มือซื้อขาย/แต่งห้องทำงาน-62945