Co-Working Space หรือ Traditional Office? แบบไหนเหมาะกับธุรกิจคุณ

ในปัจจุบันการเลือกพื้นที่ทำงานขององค์กรต่าง ๆ เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตการทำงานของคนยุคใหม่ ซึ่งมีแนวโน้มที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพื้นที่ทำงานที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ไฟแรงมักจะเป็นพื้นที่ที่สามารถทำงานได้หลากหลายวัตถุประสงค์ อย่างเช่น การประชุม การนั่งทำงานในมุมส่วนตัวหรือจะเป็นการนั่งพักผ่อนเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าในการทำงาน สำหรับการเลือกพื้นที่ทำงานในปัจจุบันนั้นมีด้วยกัน 2 แบบคือการจัดพื้นที่ Co Working Space และ Traditional Office ทั้งสองแบบมีข้อดีหรือจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ผู้บริหารสามารถเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของตัวเอง โดยในบทความนี้จะมาเจาะลึกการเลือกพื้นที่ทำธุรกิจทั้ง 2 แบบ จะแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่า มาติดตามกันได้เลย 

ความแตกต่างระหว่าง Co-Working Space กับ Traditional Office

Co-Working Space คืออะไร 

Co-Working Space คือพื้นที่ทำงานที่เน้นการมีส่วนร่วมร่วมกันของพนักงาน เป็นการเลือกพื้นที่การทำงานที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ซึ่งมีบริการตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน Co-Working Space ในปัจจุบันนั้นมีการออกแบบและตกแต่งที่ทันสมัย เพื่อรองรับผู้ใช้บริการหรือพนักงานจากหลากหลายประเภท หากองค์กรใดที่มีพนักงานเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงและต้องการพื้นที่สำหรับทำงานที่ตอบโจทย์ทุกกิจกรรม เสริมสร้างความสุขของพนักงานและเพื่อประสิทธิผลของชิ้นงาน การจัดพื้นที่ Co Working Space ถือว่าเหมาะมาก ๆ และเกิดผลดีทั้งต่อตัวพนักงานเอง รวมถึงองค์กรด้วย 

จุดเด่นของการจัดพื้นที่ Co Working Space นั้นมีอยู่หลายข้อไม่ว่าจะเป็นการประหยัดต้นทุน เมื่อองค์กรเลือกพื้นที่แบบ Co Working Space เราไม่จำเป็นต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เพราะมีพร้อมครบครัน อีกทั้งพื้นที่การทำงานก็ถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วน สามารถใช้บริการได้ทั้งการนั่งทำงาน การประชุม การนำเสนองานต่าง ๆ ตลอดจนการนั่งพักผ่อนก็สามารถจัดการได้ ซึ่งนอกจากประหยัดต้นทุนและมีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนแล้ว เงื่อนไขการเช่าก็สามารถยืดหยุ่นได้ ไม่มีการผูกมัดเป็นปีหรือหลายปี เราสามารถปรับเปลี่ยนและจัดการระยะเวลาเช่าได้ตามต้องการ ถือว่าการเลือกพื้นที่แบบ Co Working Space นั้นตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากเลยทีเดียว 

Traditional Office คืออะไร 

สำหรับ Traditional Office นั้นหลายคนอาจไม่คุ้นหูกันเท่าไหร่ แต่ในวงการธุรกิจ Traditional Office นั้นมีมายาวนาน เรียกได้ว่าเป็น ‘การเลือกพื้นที่แบบดั้งเดิม’ ที่เหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่ เพราะจะมีการทำสัญญาเช่าที่ผูกมัดเป็นรายปีหรือหลายปี หากเป็นองค์กรขนาดเล็กและมีการทำงานที่ยืดหยุ่น การเลือกพื้นที่แบบ Traditional Office นั้นถือว่ายังไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ แต่หากเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ จำเป็นต้องใช้พื้นที่ที่กว้างเพื่อรองรับพนักงานและการทำงานที่หลากหลายด้วย การตกแต่งออฟฟิศแบบ Traditional Office นั้นถือว่าตอบโจทย์ทีเดียว Office room design แบบนี้ในปัจจุบันเริ่มลดน้อยลง เมื่อมีคนรุ่นใหม่มาบริหารองค์กร การตกแต่งออฟฟิศแบบ Co Working Space จึงได้รับความนิยมมากกว่า 

แต่ไม่ว่าการเลือกพื้นที่แบบ Traditional Office นั้นจะดูล้าสมัยหรือไม่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ แต่การเลือกพื้นที่แบบนี้ก็เหมาะกับองค์กรที่ต้องการประสบความสำเร็จ เพราะเป็นการเช่าที่ติดสัญญาระยะยาว เมื่อผู้บริหารเลือกแล้วก็ย่อมมีแรงกระตุ้นในการพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้าและเกิดผลกำไร หรือเรียกได้ว่ามีความมั่นคงกว่านั่นเอง อีกทั้งผู้บริหารไม่จำเป็นต้องกังวลกับการตกแต่งออฟฟิศ เพราะการจัดพื้นที่แบบ Traditional Office มีการตกแต่งที่พร้อมเข้าอยู่ ในระดับที่สวยงามน่าอยู่ เหมาะกับองค์กรที่ต้องการภาพลักษณ์ที่ดูดีและน่ายกย่อง นอกจากนี้ในเรื่องของระบบหลังบ้านต่าง ๆ การเลือกพื้นที่แบบ Traditional Office ยังมีบริการที่ดีกว่า ไม่ว่าจะระบบรักษาความปลอดภัย การบริการดูแลความสะอาดพื้นที่ทำงานต่าง ๆ หรือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง เป็นต้น 

หรือ แบบ Traditional Office ทั้งสองแบบก็มีข้อดีแตกต่างกันไป หากคุณเป็นองค์กรขนาดเล็กและมีพนักงานส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ก็สามารถเลือกพื้นที่แบบ Co Working Space แต่หากคุณเป็นองค์กรขนาดใหญ่และต้องการสร้างความมั่นคงให้องค์กรก็สามารถเลือกพื้นที่เป็นแบบ Traditional Office หรือแบบดั้งเดิมได้ หากรู้จุดเด่นหรือข้อดีของทั้งสองแบบแล้ว ก็หวังว่าจะสามารถเลือกจัดพื้นที่ทำงานให้เหมาะกับองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้ และที่นี่เรามีบริการ Smart Workplace Solution ออกแบบออฟฟิศให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะคนรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่าก็สามารถมีออฟฟิศที่ตรงใจและนั่งทำงานอย่างมีความสุขได้ เพราะเราเชื่อว่าการออกแบบออฟฟิศที่ดี จะนำมาซึ่งความสุขของพนักงานขององค์กร

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการจัดพื้นที่ Co Working Space

• Co-Working Space เหมาะกับทุกธุรกิจหรือไม่?

จริง ๆ แล้วการจัดพื้นที่ Co Working Space นั้นเหมาะกับธุรกิจที่กำลังพัฒนา อาจเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดย่อมที่ต้องการสร้างบรรยากาศที่ดีให้พนักงาน แน่นอนว่าการเลือกจัดพื้นที่แบบ Co Working Space นั้นมีความทันสมัยกว่า Traditional Office 

• Traditional Office ยังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่?

หากคุณมีธุรกิจที่เติบโตหรือประสบความสำเร็จมานานมากแล้ว อาจยังจำเป็นที่ต้องมีการจัดพื้นที่แบบ Traditional Office ด้วยสัญญาเช่าที่ตอบโจทย์และสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรได้ในระยะยาวมากกว่าแบบ Co Working Space 

• จะเลือก Co-Working Space ที่ดีได้อย่างไร?

เรา สามารถเลือกจัดพื้นที่ Co Working Space ที่ดีและเหมาะกับองค์กรได้โดย พิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่ทำงาน Co Working Space กับจำนวนพนักงานในองค์กร ตลอดจนพิจารณาถึงการตกแต่งที่สวยงามน่าอยู่ ควรเลือกเป็น Co-Working Space ที่มีการออกแบบที่ดีและสามารถสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีด้วย 

• ค่าใช้จ่ายในการเช่า Co-Working Space เทียบกับ Traditional Office แตกต่างกันอย่างไร?

สำหรับค่าใช้จ่ายนั้นแต่ละแบบก็มีค่าใช้จ่ายจำเป็นที่ต่างกันไป อย่างแบบ Co-Working Space อาจจำเป็นต้องมีค่าบำรุงรักษาและทำความสะอาดเพิ่มเติม แต่สำหรับแบบ Traditional Office นั้นเราจำเป็นต้องมีค่ามัดจำล่วงหน้าเป็นก้อน ซึ่งเหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่กว่านั่นเอง