ออกแบบออฟฟิศ Open Space สร้างบรรยากาศการทำงานที่สร้างสรรค์

การออกแบบออฟฟิศแบบ Open Space กำลังเป็นเทรนด์งานดีไซน์พื้นที่ทำงานในปัจจุบัน โดยปรับเปลี่ยนการจัดวางที่สร้างพื้นที่ให้กว้างเชื่อมต่อกับห้องต่างๆ สร้างความกลมกลืนให้พื้นที่ส่วนกลาง พร้อมสร้างบรรยากาศการทำงานที่เปิดกว้างและกระตุ้นไอเดียความคิดสร้างสรรค์ให้พนักงานได้เป็นอย่างดี 

ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการออกแบบออฟฟิศสไตล์ Open Space กันครับ พร้อมเคล็ดลับการตกแต่งมุมทำงาน ที่ช่วยเพิ่มความโปรดักทีฟ ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์แบบไหนดี มาดูกันเลย! 

ออกแบบออฟฟิศ Open Space คืออะไร

ออกแบบออฟฟิศ Open Space คือ  การออกแบบออฟฟิศที่เน้นพื้นที่เปิดโล่งกว้าง ไม่อึดอัด โดยพื้นที่ใช้สอยจะเชื่อมต่อกันแบบไม่มีฉาก ทลายผนังทึบออก พร้อมจัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นสัดส่วน เพื่อขยายพื้นที่ใช้สอย โดยในมุมโต๊ะทำงาน จะเน้นจัดเฟอร์นิเจอร์แบบ Open Space โดยเลือกใช้โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ไม่มีที่กั้น ซึ่งช่วยเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนบนโต๊ะได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ การออกแบบออฟฟิศแบบ Open Space ยังเน้นตกแต่งออฟฟิศโซนอื่นๆเพิ่มเติม ที่เน้นทำให้คนในองค์กรทำกิจกรรมร่วมกันได้มากขึ้น  เช่น มุมพักผ่อน พื้นที่ทานข้าวและพื้นที่ห้องครัวที่หันเข้ากัน เพื่อรองรับการใช้งานกับทุกคนได้อย่างเต็มที่

ประโยชน์ของการออกแบบออฟฟิศ Open Space 

การตกแต่งออกฟิศแบบ Open Space เป็นแนวคิดของออฟฟิศสมัยใหม่ ที่เน้นความยืดหยุ่นและต้องการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายในการทำงาน จุดเด่นของออกฟิศแบบ Open Space จะเน้นให้พนักงานเลือกใช้พื้นที่ทำงานและจัดกิจกรรมต่างๆได้อย่างอิสระ ประโยชน์ของการออกแบบออฟฟิศ Open Space มีดังนี้ 

1. ส่งเสริมการสื่อสารและความสัมพันธ์ที่ดี

ออฟฟิศแบบ Open Space จะเน้นออกแบบพื้นที่ในแต่ละห้องสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ อีกทั้งการเลือกเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศที่มีขนาดกว้าง เป็นฉากกั้นโซนและใช้ร่วมกับพนักงานอื่นๆได้ เช่น โต๊ะประชุมขนาดใหญ่ , เคาน์เตอร์บาร์และกระจกใสที่ใช้แทนบอร์ด เป็นต้น การออกแบบพื้นที่ที่ไร้ฉากกั้นและมีเฟอร์นิเจอร์ใช้งานร่วมกัน จะส่งเสริมการสื่อสารและความสัมพันธ์ที่ดีได้ในทุกฝ่าย 

2. สร้างความร่วมมือระหว่างกันในทีม

ออฟฟิศแบบ Open Space โด่ดเด่นด้วยบรรยากาศที่กว้าง พร้อมระดับแสงที่โปร่งสบายตาและจัดโต๊ะที่นั่งทำงาน ไม่เว้นระยะห่างมาเกินไป เช่น โต๊ะทำงาน 2 ด้านหันเข้าหากัน , ตู้ลิ้นชักมีล้อเลื่อน และเก้าอี้ทำงานเบาะนุ่มรองรับหลัก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้พนักงานรู้สึกผ่อนคลาย ไม่อึดอัดในการทำงานและพูดคุยประสานงานกันได้ดียิ่งขึ้น  

3. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

ศแบบ Open Space มักเน้นที่ความยืดหยุ่นในการทำงานและสร้างบรรยากาศที่กระตุ้นให้เกิดไอเดียความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้โทนสีห้องสว่างเรียบง่าย เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังค์ชั่น พร้อมตกแต่งพื้นส่วนกลางให้กว้างและใช้งานได้หลายกิจกรรม ช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้

ออกแบบออฟฟิศแบบ Open Space อย่างไรให้เพิ่มความ Productive

ตกแต่งออฟฟิศแบบ Open Space ถือเป็นสไตล์ออฟฟิศที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ เน้นตกแต่งในบรรยากาศโปร่งโล่ง ดูโมเดิร์นทันสมัยและจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์และเน้นการใช้งานเป็นหลัก ถ้าคุณกำลังมองหาไอเดีย ออกแบบออฟฟิศแบบ Open Space เพิ่มโปรดักซ์ทีฟในการทำงาน เรามีคำแนะนำมาบอกครับ ลองทำตามนี้เลย! 

จัดวางแผนพื้นที่ใช้สอยให้คุ้มค่า:  การตกแต่งออฟฟิศแบบ Open Space จะออกแบบโดยจัดแบ่งโซนการทำงานที่เป็นสัดส่วน นิยมใช้เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ เป็นฉากกั้นในแต่ละโซน ช่วยเปิดพื้นที่ให้กว้างยิ่งขึ้นและยังใช้เฟอร์

นิเจอร์จะเน้นฟังก์ชันที่สามารถปรับเปลี่ยนหรือเคลื่อนย้ายได้ง่าย เช่น โต๊ะทำงานพร้อมลิ้นชัก , เก้าอี้สำนักงานล้อเลื่อนและโต๊ะประชุมแบบพับเก็บได้ เป็นต้น

นอกจากนี้ การเลือกใช้เฉดสีขาว ครีมหรือโทนสีอ่อน พร้อมประดับด้วยต้นไม้สีเขียวในมุมทำงาน จะช่วยเพิ่มความสบายตา เพิ่มสมาธิและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้

ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยสนับสนุนการทำงาน: ออฟฟิศที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน จะช่วยลดภาระ ประหยัดเวลาและอำนวยความสะดวกให้พนักงานได้เป็นอย่างดี  เช่น ระบบไฟเปิด-ปิดอัตโนมัติบนแอปพลิเคชั่น ,ระบบโทรเข้า-โทรออกบนแอปพลิเคชั่นและระบบสั่งการอุปกรณ์สำนักงานแบบไร้สายผ่าน Wifi เป็นต้น 

เพิ่มแสงธรรมชาติให้ออฟฟิศมากขึ้น: การเลือกใช้แสงสว่างธรรมชาติ ในออฟฟิศ จะช่วยป้องกันตาแห้งและการถูกทำลายจากรังสีของหลอดไฟได้ นอกจากนี้ ระดับแสงสว่างธรรมชาติ ถือเป็นเฉดแสงที่อบอุ่นและทำให้มองเห็นได้กำลังดี ช่วยเพิ่มสภาพแวดล้อมที่ดีและผ่อนคลายในที่ทำงานได้

การออกแบบออฟฟิศแบบ Open Space เป็นเทรนด์งานดีไซน์ออฟฟิศ สำนักงานที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ทำให้ปรับภาพลักษณ์องค์กรให้ดูทันสมัยขึ้นได้  ออฟฟิศแบบ Open Space จะเน้นพื้นที่ที่เปิดโล่งและใช้เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ร่วมกัน เพื่อสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้าง กระตุ้นให้เกิดการสื่อสารภายในทีมและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ได้