Coffee Badging เพิ่ม Work-Life Balance ได้จริงไหม

สำหรับคนทำงานยุคใหม่ที่มักมองหา Work-Life Balance ทำให้การออกแบบออฟฟิศยุคใหม่ต้องตอบโจทย์ อย่างเทรนด์การทำงานแบบ Coffee Badging ที่ลดเวลาการเข้าออฟฟิศ เน้นการพบปะ สังสรรค์ ก่อนแยกย้ายไปทำงานที่อื่น ที่เหมือนจะช่วยลดความเครียด ความกดดันจากการเข้าออฟฟิศได้ แต่ Coffee Badging จะสร้างผลกระทบนอกเหนือจากที่คิดหรือไม่ มาดูกันในบทความนี้เลย!

Coffee Badging ในมุมมองต่างๆ

Coffee Badging เป็นเทรนด์สไตล์การทำงานในแบบ Modern Office เน้นจิบกาแฟ พูดคุย สังสรรค์แลกเปลี่ยนเรื่องราว keep ความสัมพันธ์ก่อนแยกย้ายกันไปทำงาน เหมาะกับองค์กรที่ต้องการออกแบบออฟฟิศยุคใหม่ให้ตอบโจทย์กับโลกและความต้องการของพนักงานรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น โดยเราสามารถแบ่งมุมมองระหว่างพนักงานและมุมมองของเจ้าของกิจการ ที่มีต่อเทรนด์ Coffee Badging ได้ดังนี้

• บริษัท Modern Office มีความยืดหยุ่นในการทำงาน เชิญชวนให้อยากร่วมงาน เพราะมีเวลาให้จัดสรรอย่างอิสระ
• มีโอกาสให้ได้พบปะผู้คน ไม่รู้สึกห่างเหินกับเพื่อนร่วมงานมากเกินไป
• รักษาสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว Work-Life balance
• ลดความเครียดและความกดดันที่เกิดจากการทำงาน หรือสภาพแวดล้อมการทำงานจำเจได้ดี 

• Coffee Badging ช่วยรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานและองค์กร
• การเปิดโอกาสให้พนักงานเข้ามาพบปะที่ออฟฟิศ ช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีและบรรยากาศที่ดีในการทำงาน
• ช่วยให้การสื่อสารและการประสานงานเป็นไปอย่างราบรื่น
• พนักงานมีประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น เพราะได้มีพื้นที่ส่วนตัว และเป็นอิสระจากพื้นที่เดิม ๆ 

ข้อดีของการออกแบบออฟฟิศเทรนด์ Coffee Badging

• ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และบรรยากาศอันดีในการทำงานร่วมกันของพนักงาน
• ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน พนักงานสามารถเลือกเวลาทำงานที่เหมาะสมกับตัวเองและเลือกเวลาพักผ่อนที่ต้องการได้โดยปราศจากความกดดัน
• เป็นการลดความเครียดจากบรรยากาศการทำงานออฟฟิศแบบเดิม ๆ 
• เป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริม Work-Life Balance พนักงานสามารถแบ่งเวลาให้ชีวิตส่วนตัวและเวลางานได้ดีขึ้น
• เมื่อทำงานในสภาพแวดล้อมที่สบายใจส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น

ข้อเสียของการออกแบบออฟฟิศเทรนด์ Coffee Badging

• งานบางประเภทอาจไม่เหมาะกับเทรนด์ เช่น งานที่ต้องใช้สมาธิต่อเนื่อง หรืองานที่ต้องมีส่วนร่วมกับเครื่องจักร หรือเครื่องมือที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
• หากไม่มีการตั้งเป้าหมายงานที่ชัดเจน อาจทำให้งานไม่บรรลุตามเป้าหมาย
• อาจสร้างความเข้าใจผิดจากการสื่อสารผิดพลาด คลาดเคลื่อน ไม่ชัดเจน เพราะไม่ได้พูดคุยกันทันทีเมื่อเกิดปัญหา
• หากพนักงานบริหารเวลาไม่เหมาะสม ส่งผลให้ประสิทธิภาพงานลดลงได้

Coffee Badging กับ Work-Life Balance

หากจะพูดถึงความหมายของ Work-Life Balance ที่แท้จริง ก็หมายถึงการที่เราสามารถแบ่งเวลาในการทำงานให้สมดุลกับเวลาในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเวลาในการดูแลตัวเอง หรือเวลาในการอยู่กับครอบครัวอย่างเหมาะสมและสมดุล ซึ่ง Coffee Badging ก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ตัวเลือกที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริมให้ความปรารถนา Work-Life Balance ของคนรุ่นใหม่ใน Modern Office ให้เกิดขึ้นได้จริงอย่างชัดเจน ถือเป็นเทรนด์ที่ถูกหยิบมาเป็นไอเดียในการออกแบบออฟฟิศยุคใหม่มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยองค์กรสามารถนำเอา Coffee Badging ไปปรับใช้กับรูปแบบการทำงาน ที่แตกต่างกันได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

• การทำงานแบบ Hybrid Work ในช่วงที่เข้าออฟฟิศสามารถสังสรรค์ พบปะ พูดคุยกับทีมงานได้
• การทำงานแบบ Flexible Work ให้เข้ามา Coffee Badging ในช่วงเวลาที่สะดวก
• การทำงานแบบ Remote Work ช่วยให้ทีมที่ห่างไกลได้เข้ามาพบปะ พูดคุยกัน หรือใช้พื้นที่ Coffee Badging เป็น Co-working space
• การทำงานแบบโครงการ Project-base work ให้ทีมได้เข้ามาระดมความคิด แลกเปลี่ยนไอเดียกันในพื้นที่ Coffee Badging

Coffee Badging ในประเทศไทย

แม้ว่าเทรนด์ออกแบบออฟฟิศให้มี Coffee Badging จะได้รับความนิยมสูง แต่ในประเทศไทยเองอาจจะยังไม่ได้นำมาปรับใช้แพร่หลายมากนัก ด้วยวัฒนธรรมการทำงานเดิมที่ต้องอาศัยเวลาในการปรับเปลี่ยนและทำความเข้าใจ รวมถึงความเชื่อมั่นระหว่างองค์กรในศักยภาพของพนักงานเองก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ Modern Office เอาเทรนด์ Coffee Badging เข้ามาใช้มากยิ่งขึ้น หรือการมองหาจุดกึ่งกลางร่วมกันเพื่อให้พนักงานมี Work-Life Balance แต่องค์กรต้องไม่เสียผลงานที่มีคุณภาพไปด้วย 

ข้อควรระวังในการนำ Coffee Badging มาใช้ในบริบทของไทย

สำหรับการออกแบบออฟฟิศยุคใหม่ที่อยากจะนำเอาเทรนด์ Coffee Badging มาใช้เป็นวัฒนธรรมองค์กรเพื่อให้ตอบโจทย์ความเป็น Modern Office และสนับสนุน Work-Life Balance ของพนักงานให้มากขึ้น ก็มีข้อควรระวังก่อนตัดสินใจนำเอาเทรนด์เหล่านี้เข้ามาใช้ด้วยความแตกต่างของบริบทในการทำงานหลาย ๆ ด้านที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ และหาจุดกึ่งกลางร่วมกันอย่างเป็นเหตุเป็นผล ไม่ว่าจะเป็นในด้าน

• วัฒนธรรมองค์กรบางที่มีความเหนียวแน่น และจำเป็นต้องเข้า-เลิกงานตามเวลาที่ออฟฟิศ การนำเอา Coffee Badging มาใช้ทันที อาจสร้างความสับสน ไม่เหมาะสมกับรูปแบบการทำงาน

• การสื่อสารประสานงานระหว่างหน่วยต่าง ๆ เกิดความท้าทายมากยิ่งขึ้น ต้องมีการวางระบบที่พนักงานสามารถสื่อสารกันได้แม้จะอยู่คนละสถานที่

• เกณฑ์ในการวัดผลการดำเนินงาน หรือวัดประสิทธิภาพการทำงานอาจจะต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับรูปแบบการทำงานตามเทรนด์ Coffee Badging ด้วย

สรุป

สำหรับการทำงานแบบใหม่หรือการออกแบบออฟฟิศยุคใหม่โดยนำเอาเทรนด์ Coffee Badging เข้ามาใช้เพื่อให้พนักงานมีพื้นที่ให้เข้ามาพบปะ พูดคุย จิบกาแฟร่วมกันอย่างยืดหยุ่น นับเป็นอีกเครื่องมือที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเพิ่ม Work-Life Balance ได้ แต่ก็ต้องอยู่บนความเข้าใจและการให้ความร่วมมือที่ดีระหว่างพนักงานและองค์กร ที่ทางพนักงานเองก็จะต้องทำงานออกมาครบถ้วนตามเกณฑ์ ไม่ลดคุณภาพงานลงต่อให้มีอิสระในการจัดการเวลาและใช้ชีวิตมากขึ้นก็ตาม 

FAQ

Coffee Badging เป็นเทรนด์ที่ Modern Office หยิบมาเป็นเครื่องมือในการเพิ่ม Work-Life Balance ให้กับพนักงานกันมากขึ้น โดยมีพื้นที่ให้พนักงานสำหรับการดื่มกาแฟ พบปะสังสรรค์ พูดคุย เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน จากนั้นค่อยแยกย้ายกันไปทำงานตามสถานที่ที่ต้องการ เพื่อสร้างสมดุลชีวิตที่ดีระหว่างงานและการใช้ชีวิต

Coffee Badging เหมาะกับใคร? 

การออกแบบออฟฟิศให้มี Coffee Badging จะเหมาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือกลุ่มคนที่ระบบทำงานไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน เช่น

• พนักงานที่ทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Work)
• พนักงานกลุ่ม Gen Z และ Millennials 
• พนักงานกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับ Work-Life Balance
• พนักงานที่ต้องการความยืดหยุ่น

Coffee Badging ช่วยเรื่อง Work-Life Balance ได้อย่างไร?

แน่นอนว่า Coffee Badging เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้าง Work-Life Balance ให้กับคนทำงานได้จริง ด้วยกลไกของมันเองที่ส่งผลต่อการสร้างสมดุลที่พนักงานและองค์กรรุ่นใหม่ (Modern Office) มองหา ดังนี้

• ความยืดหยุ่นในการทำงาน ไม่ต้องฝ่ารถติดใน Rush Hour หรือนั่งรอให้ถึงเวลาเลิกงานทั้ง ๆ ที่ทำงานครบถ้วนแล้ว
• ยังได้พบปะกับเพื่อนร่วมงาน มีกลุ่มสังคม ลดความโดดเดี่ยวจากการทำงานทางไกล
• ช่วยแบ่งเวลาในการ “ออกไปบริษัท” กับ “เวลาทำงาน” และ “เวลาส่วนตัว” ได้อย่างชัดเจน
• ลดความเครียดจากการทำงานที่ซ้ำซากและจำเจ สภาพแวดล้อมการทำงานเดิม ๆ ที่ไม่เอื้อต่องานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์

บริษัทควรมีแนวทางอย่างไรในการนำ Coffee Badging มาใช้? 

สำหรับองค์กรที่จะนำเอา Coffee Badging มาใช้งานในการออกแบบออฟฟิศยุคใหม่ ก็ควรกำหนดแนวทางเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและสร้างความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างองค์กรและพนักงาน เช่น

1. กำหนดนิยามของ Coffee Badging ให้ชัดเจน
2. ระบุขอบเขตและข้อจำกัดของการทำ Coffee Badging
3. เปิดโอกาสในการปรับเปลี่ยนตารางงานให้เหมาะสมกับพนักงาน
4. สร้างความไว้วางใจ เน้นดูที่ผลลัพธ์ของงาน
5. สร้างความเข้มแข็งทางการสื่อสาร พูดคุยระหว่างทีมงาน
6. จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการทำ Coffee Badging
7. คอยติดตามและประเมินผลการทำงานที่นำ Coffee Badging มาใช้
8. ปรับปรุงแผนงานให้เหมาะสม